วันพฤหัสบดีที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2555

Strategic Matrix


Strategic Matrix ด้าน Planning








เมทริกซ์ยุทธศาสตร์เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เข้าถึงได้ง่ายเพื่อแก้ปัญหานำไปใช้ในกรณีศึกษา กรณีศึกษาแต่ละชิ้นส่วนได้รับการกรองออกข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับข้อ จำกัด หลักและโซลูชั่นที่สอดคล้องกันของรูปแบบธุรกิจ
เมทริกซ์กลยุทธ์สามารถช่วยให้ผู้ประกอบการและนักวิเคราะห์สแกนโซลูชั่นที่เป็นไปได้ที่จะ จำกัด พวกเขาเผชิญ มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะทราบว่ารูปแบบธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมักจะรวมรวมหลายกลยุทธ์เพื่อที่อยู่ข้อ จำกัด หลายประการ จะได้รับจากกลยุทธ์ในวงกว้างเพื่อแก้ปัญหาที่เน้นการอย่างใดอย่างหนึ่งต้องไม่เพียง แต่ระบุแต่ละข้อ จำกัด ในประเทศ แต่ยังทำความเข้าใจพลวัตในตลาด
เมทริกซ์กลยุทธ์ช่ว​​ยให้ผู้อ่านเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับประสบการณ์จากกรณีที่มีบางระดับที่เพิ่มขึ้นของรายละเอียดเริ่มต้นที่ประเภทกว้างหรือข้อ จำกัด และแนวทางการแก้ปัญหาและสิ้นสุดในกรณีศึกษาความยาวเต็ม ด้วยวิธีนี้คุณสามารถซูมในความท้าทายหรือนวัตกรรมที่เป็นที่สุดที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์เฉพาะของคุณ
             แนวคิดเกี่ยวกับการกำหนดกลยุทธ์
การกำหนดกลยุทธ์ (Strategy formulation) เป็นกิจกรรมที่ต่อเนื่องจากการวิเคราะห์เชิง    กลยุทธ์ ซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญต่อความสำเร็จในการดำเนินการเชิงกลยุทธ์ในแต่ละองค์การ ทาให้ผู้บริหารสามารถกำหนดเป้าหมายขององค์ การได้ ตลอดจนสามารถรู้ถึงทิศทางขององค์การในอนาคต โดยการนาข้อมูลและความรู้ต่าง ๆ ที่ได้รับจากการวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ มาจัดทาเป็นกลยุทธ์ในระดับและรูปแบบต่างๆ รวมทั้งประเมินและคัดเลือกว่ากลยุทธ์ใดมีความเหมาะสมกับองค์การมากที่สุด ผลจากการวิเคราะห์เชิง กลยุทธ์และการกำหนดกลยุทธ์ที่เหมาะสมจะนาไปสู่การวางแผนกลยุทธ์ (Strategic Planning) การกำหนดกลยุทธ์จะเริ่มต้นจากการกำหนดจุดมุ่งหมายขององค์การ ได้แก่ วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย และวัตถุประสงค์
การกำหนดกลยุทธ์จึงมีความสำคัญมากต่อจุดหมายปลายทางในอนาคต การประมวลข้อมูลทั้งหมดจากการวิเคราะห์ส่วนประกอบ (Portfolio approach) โดยเฉพาะการวิเคราะห์ SWOT จะนำมากำหนดเป็นกลยุทธ์ในระดับองค์การโดยรวม (Corporate-level strategy) ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์หลัก (Grand strategy) ที่ผู้บริหารระดับสูงจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าควรนำกลยุทธ์ใดไปดาเนินการ โดยมีบรรทัดฐานในการตัดสินใจเลือกกลยุทธ์ ดังนี้คือ
1)  กลยุทธ์ต้องตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมภายนอก
2)  กลยุทธ์ที่ดีต้องคำนึงถึงการรักษาสถานภาพ และความได้เปรียบในการแข่งขัน
3)  กลยุทธ์แต่ละด้านต้องมีความสอดคล้องกัน
4)  กลยุทธ์ที่ดีต้องคำนึงถึงความยืดหยุ่น
5)  กลยุทธ์ต้องสอดคล้องกับพันธกิจและเป้าประสงค์
6)  กลยุทธ์ที่ดีต้องมีความเป็นไปได้ในการดำเนินงาน
      เทคนิคที่ใช้ในการกำหนดกลยุทธ์  ดังนี้
1. เทคนิคที่ใช้ในการกำหนดกลยุทธ์ระดับองค์การ หลังจากได้วิเคราะห์ลักษณะโดยทั่วไปขององค์การแล้วและได้ผ่านกระบวนการวิเคราะห์ปัจจัยทั้งภายในและภายนอกในรูปของSWOT analysis แล้ว มีเทคนิคที่นำมาใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกกลยุทธ์ระดับองค์การดังนี้
1.1 เมททริกซ์ทาวซ์ (TOWS matrix)
1.2 เมททริกซ์ประเมินกลยุทธ์และตำแหน่ง (The strategic position and action evaluation matrix: SPACE matrix)
1.3 เมททริกซ์กลุ่มปฏิริยาบอสตัน (BCG matrix)
1.4 เมททริกซ์กลยุทธ์หลัก (The grand strategy matrix)
2. เทคนิคที่ใช้ในการกำหนดกลยุทธ์ระดับธุรกิจ การนำเทคนิคต่างๆ มาใช้ในการกำหนดกลยุทธ์ระดับธุรกิจนี้เน้นการนำปัจจัยทางธุรกิจมาพิจารณา ซึ่งประกอบด้วยเทคนิคต่างๆ ดังนี้
2.1 เมททริกซ์การเจริญเติบโตของส่วนแบ่งทางการตลาด (Growth-Share matrix)
2.2 เมททริกซ์ความดึงดูดทางอุตสาหกรรม-จุดแข็งของธุรกิจ (Industry attractiveness- business strength matrix)
2.3 เมททริกซ์วงจรชีวิตตลาด-จุดแข็งในการแข่งขัน (The market life cycle-competitive strength matrix)
3. เทคนิคที่ใช้ในการกำหนดกลยุทธ์ระดับปฏิบัติการ เป็นวิธีการที่ยึดหลักการสร้างคุณค่าของบริษัทและธุรกิจในสายตาลูกค้า (Customer value) ซึ่งค่านิยมพื้นฐานของลูกค้า มี 3ประการ คือ ต้องการสินค้าหรือบริการที่ดีกว่า ถูกกว่า และรวดเร็วกว่า

      ความสำคัญของการจัดการเชิงกลยุทธ์ที่มีต่อการดำเนินงานดังนี้
1.       ช่วยให้องค์กรมีกรอบและทิศทางที่ชัดเจน
2.       ช่วยให้ผู้บริหารคิดอย่างเป็นระบบ
3.       ช่วยสร้างความพร้อมให้องค์กร
4.       ช่วยสร้างประสิทธิภาพในการแข่งขัน
5.       ช่วยให้การทำงานเกิดความสอดคล้องในการปฏิบัติหน้าที่
6.      ช่วยให้องค์กรมีมุมมองที่ครอบคลุม

ที่มา คุณวรรณพรรณ     รักษชน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น