วันพฤหัสบดีที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2555

Re-engineering


Framework Management Tool Box : Re-engineering
ด้าน Organizing

Michael Hammer and James Champy
     แนวความคิดของ Adam Smith ไม่เหมาะสมกับสภาพธุรกิจปัจจุบัน ด้วยสภาวการณ์ต่าง ๆ ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม จากปัจจัยผันแปร 3 ประการคือ
        1.  ความสำคัญของลูกค้า (Customer)
        2.  สภาพการแข่งขัน  (Competition)
        3.  การเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง (Change)

     Re-engineering  หมายถึง  การพิจารณาหลักการพื้นฐานและการคิดแบบขึ้นใหม่ ชนิดถอนรากถอนโคนของกระบวนการธุรกิจเพื่อบรรลุซึ่งผลลัพธ์ของการปรับปรุงอันยิ่งใหญ่ โดยใช้มาตรวัดผลการปฏิบัติงานที่ทันสมัยและสำคัญที่สุด ซึ่งได้แก่ ต้นทุน  คุณภาพ การบริการและความรวดเร็ว

      องค์ประกอบ มีปัจจัย  4  ประการ
            1.  พื้นฐาน (Fundamental)
            2.  ถอนรากถอนโคน (Radical)
            3.  ยิ่งใหญ่ (Dramatic)
            4.  กระบวนการ (Processes)

      ผู้ที่มีส่วนร่วมในการทำ Re-engineering
            1.  ผู้นำ (Leader)
            2.  เจ้าของกระบวนการ (Process Owner)
            3.  ทีม Re-engineering (Re-engineering Team)
            4.  คณะกรรมการผลักดัน (Steering Committee)
            5.  หัวเรือใหญ่ในการทำ Re-engineering (Re-engineering Czar)

    ขั้นตอนการทำ Re-engineering
           1.  Re-think
           2.  Re-design
           3.  Re-tool
           4.  Re-train

    ข้อดีของการทำ Re-engineering
         -  ทำให้บุคลากรของหน่วยงานสามารถทำงานได้หลาย ๆ ช่วงการบังคับบัญชาสั้นลง
         -  ด้านอำนาจและความรับผิดชอบ ทำให้บุคลากรมีส่วนร่วมในการตัดสินใจมากขึ้น
         -  สายการบังคับบัญชา มีการเปลี่ยนมือจากคน ๆ เดียวมาเป็นคนหลายคน
         -  สามารถลดขั้นตอนในการปฏิบัติงานลงได้
         -  กรทำงานภายในองค์การจะเกิดความคล่องตัวมากยิ่งขึ้้น
         -  ก่อให้เกิดการขยายงานอย่างเป็นระบบ
         -  ก่อให้เกิดการประหยัดในการดำเนินการทั้งต้นทุนทางตรงและต้นทุนทางอ้อม
         -  มุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญอันจะนำไปสู่ให้ลูกค้าพึงพอใจมากขึ้น
         -  เป็นการปรับเปลี่ยนแนวคิดใหม่ทั้งหมดในการทำงาน (Holistic approach)
         -  เจ้าหน้าที่หรือพนักงานสามารถทำงานได้อย่างเป็นอิสระมากขึ้น





ที่มาข้อมูล :  นายเผด็จ  เย็นวิชัย

2 ความคิดเห็น: